คนเกินตัว
__" ทีเอาเงินไปซื้อของสุรุ่ยสุร่ายนั้นแทบจะไม่เสียดาย แต่เพียงแค่สละเงินไม่กี่บาทกลับเสียดายแทบใจจะขาด " ___
ผู้เข้าชมรวม
475
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวของประเทศไทย แสงแดดส่งความร้อนมายังโลกมากกว่าทุกๆวัน ไม่มีเมฆมาช่วยบดบังแสงแดดเลยแม้แต่น้อย องอาจชายอายุราว40ปลายๆ ยืนอยู่กลางแดดร้อนๆ รถราผ่านไปมาแถวสยามไม่ค่อยคล่องตัวนัก เขายืนมองผู้คนผ่านไปมาโดยไม่รู้จุดหมายของตัวเอง คนที่ผ่านตัวเขาล้วนแต่ไม่กล้าเข้าใกล้พยายามเดินห่างจากตัวเขาให้ได้มากพอที่ทางจะอำนวย เขาได้แต่มองตัวเองอย่างสมเพช เสื้อผ้าสีทึมๆที่หลุดลุ่ย แม้คนบางคนคงจะเห็นเป็นเพียงแค่ผ้าขี้ริ้ว แต่มันก็เป็นเสื้อเพียงตัวเดียวที่เขามี กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ไม่เหลือร่องรอยเค้าเดิมแม้แต่น้อย บางที่ขาดจนแทบจะหลุดออกจากกันโดยเฉพาะช่วงเท้า เนื้อตัวมอมแมม ไม่ได้ผ่านการอาบน้ำมาหลายสัปดาห์ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงยาวจนไปพันกันยุ่งเหยิงกับเครา จนดูไม่ออกมาอันไหนผมอันไหนเครา เหตุผลที่ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้เขาเพราะเนื้อตกสกปรกมอมแมมไม่ใช่เหตุผลเดียว แต่เขายังแลดูน่ากลัว ผู้คนที่ผ่านยังไม่รู้ว่าเขาจะทำร้ายหรือคลุ้มคลั่งขึ้นมาเมื่อไหร่
องอาจคิดถึงตอนที่อยู่บ้านนอก ไม่ต้องมาทนอยู่ในสภาพที่ใครๆก็ต่างพารังเกียจเขา แม้ว่าสมัยที่ยังอยู่บ้านนอกเขาจะมีเงินเพียงน้อยนิด แต่ยังโชคดีที่ยังมีบ้านหลังเล็กๆ สวนผักหลังบ้าน ไก่สองสามตัว ที่นาอยู่ไม่กี่ไร่ มันก็ทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบาก แต่ด้วยความที่อยากมีอะไรมากมายเหมือนคนอื่น เขาก็เริ่มกู้เงินจากเสี่ยเจ้าของที่นาหลายร้อยไร่ในละแวกนั้น โดยเขาไม่ฟังความคิดเห็นที่ขัดแย้งของภรรยาเขาแม้แต่น้อย เขากู้เงินมามากเสียจนต้องพึ่งรายได้ที่จะได้จากการขายข้าวในที่นาของเขา แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ปีนั้นฝนฟ้าไม่เป็นใจทำให้ที่นาของเขาได้รับความเสียหาย ประกอบกับดอกเบี้ยที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ทำให้เขาต้องสูญเสียบ้าน ที่นา ในเวลาอันรวดเร็ว ภรรยาของเขาหอบลูกน้อยวัย 2 ขวบหนีไปในเช้าวันถัดมา นั่นเป็นเรื่องที่เขาเจ็บใจที่สุด องอาจตัดสินใจรวบรวมเงินก้อนสุดท้ายไปเผชิญชะตาชีวิตในกรุงเทพฯ แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ฝัน งานในกรุงเทพฯหายากยิ่งกว่าที่ต่างจังหวัดเสียอีก งานแบกปูนแบกอิฐเขาก็ไม่รับ ไปที่ไหนเค้าก็บอกว่าเต็มหมดทุกที่ เงินที่มีก็เริ่มน้อยลงทุกทีจนเขาไม่มีเงินติดตัว
องอาจเดินไปเดินมาอยู่ที่สยาม มานานมากจนตัวเขาจำไม่ได้แล้ว อาจจะหลายเดือนหรือหลายปีแล้ว เขาไม่สนใจหรอกว่ามันจะนานเท่าไหร่แล้ว เขาสนใจเพียงแต่ว่าเขาจะอยู่ได้อีกนานสักแค่ไหนเชียว ในเมื่อสุขภาพก็แย่ลงทุกวัน เขาจะมีที่ประจำของเขา ซอกแคบๆ ห่างไกลจากร้านค้า แต่ก็ยังมีผู้คนเดินผ่านกันพลุกพล่านอยู่ดี องอาจ จะนั่งลงโดยมีกระป๋องแก้วพลาสติกที่เพิ่งเก็บมาตามกองขยะเมื่อสักครู่เป็นเครื่องมือหากิน สุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ดวงตาที่เลื่อนลอย ตรอกแคบๆที่เขานั่งอยู่เป็นประจำมีคนผ่านน้อยลงทุกวัน เงินที่ได้จากการขอทานมันก็ลดลงตามจำนวนคน บางวันได้ไม่ถึง 20 บาท ยากที่จะหาอะไรมาประทังชีวิต
องอาจได้แต่คิดว่า ผู้คนที่เดินผ่านแถวนี้ไม่เศษสตางค์กันบ้างหรือ เพียงแค่ห้าบาทสิบบาทคงไม่ทำให้ผู้คนเหล่านี้ยากจนลงนักหรอก เพียงแค่เศษเงินของคนพวกนี้แต่มันเป็นสิ่งที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตขององอาจให้อยู่ได้นานขึ้นมากโข มนุษย์หนอ ทีเอาเงินไปซื้อของสุรุ่ยสุร่ายนั้นแทบจะไม่เสียดาย แต่เพียงแค่สละเงินไม่กี่บาทกลับเสียดายแทบใจจะขาด
ความร้อนที่แผดเผาร่างกายร้อนเกินกว่าที่ใครๆคิด ร่างกายนอกร่มผ้าไหม้แดดจนทำให้เขาแสบไปหมด องอาจหงุดหงิดเหลือเกินกับการใช้ชีวิตไปวันๆแบบนี้ เขาไอตลอดเวลาผลมาจากสุขภาพที่ทรุดโทรม จากการสูดควันพิษจากรถรามานาน อาหารก็ไม่ได้กินทุกวัน และปัจจัยอีกหลายๆอย่าง บางทีการต้องนั่งนานๆกลางแดดร้อนนั้นอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สุขภาพของเขาแย่ลงก็ได้
เวลาเที่ยง แสงแดดส่องลงตรงกลางหัวขององอาจ เขาจะต้องทนนั่งอยู่อย่างนี้เพื่อให้ได้เพียงเศษสตางค์จากผู้มีอันจะกิน เด็กหนุ่มสาวที่เดินผ่านไปผ่านมาแทบจะไม่มีใครสนใจองอาจที่นั่งอยู่เพื่อขอเศษเงิน ต่างคนต่างมีจุดหมายที่จะต้องเร่งรีบไปให้ถึงโดยเร็ว ต่างคนก็เร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเมื่อต้องเดินผ่านองอาจ นานๆจะมีคนโยนเหรียญ 50 สตางค์ให้ โชคดีหน่อยก็จะได้ 2 บาท
เขาสังเกตเห็นวัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่ง เดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนแต่งตัวดูเป็นผู้ดีมีฐานะกันทั้งนั้น เขาได้แต่หวังว่าจะได้เงินสักสองสามบาทจากกลุ่มนี้ ดูท่าแล้วมันไม่น่าจะยากนัก องอาจพยายามยกมือขึ้นมาพนม แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่แข็งแรงมันดูเหมือนจะยากเย็นยิ่งนัก มือสั่นเทาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจองอาจเลย บางคนมองด้วยสายตาเหยียดหยามด้วยซ้ำไป กลุ่มนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้เพียงเงินสักสองสามบาท .......
เวลาย่ำถึงรัตติกาล ความหนาวเย็นที่แทบจะบาดผิวหนังของคนเราเป็นชิ้นๆก็เข้ามาเยือน องอาจสำรวจเงินในกระป๋องที่หาได้จากวันนี้ มันมีเพียง เหรียญบาท7เหรียญ กับ เหรียญ 50 สตางค์อีก3เหรียญ รวมแล้วเขาได้เงินเพียง แปดบาทห้าสิบสตางค์ เขาค่อยลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก ขาข้างขวาสั่นอย่างรุนแรงจนทำให้ล้มลงไป จนครั้งที่สองเขาต้องพิงกำแพง แม้ว่ามันจะยังสั่นอยู่แต่มันเหมือนจะค่อยๆเริ่มชิน จนอาการสั่นเริ่มลดลง เขาเดินกระเผลกผ่านตรอกนั้นไป ทางเดินว่างเปล่าหลังจากที่มีผู้คนเดินผ่านกันพลุกพล่านในช่วงที่ร้านค้าเปิด แต่ตอนนี้มันผิดตัวลงกันหมดแล้ว เขาเดินผ่านไปคนเดียวอย่างอ้างว้าง ทะลุออกมาเจอกับน้ำพุใจกลางของที่นี่ มันเป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเขาเสมอ แก้วที่ถูกใช้หากิน ตอนนี้มันถูกใช้ตักน้ำกินอย่างเป็นประโยชน์
เขาออกเดินไปเรื่อยๆหลังจากดื่มน้ำเสร็จ เดินไปสู่แหล่งที่พักพิงที่เขาจะต้องกลับมานอนที่นี่ทุกวัน ข้างๆรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง กับเก้าอี้ม้านั่งยาวตัวโปรดที่จะช่วยให้เขาได้เอนกายพักผ่อนได้เต็มที่ในวันนี้ ลมเย็นพัดมาเสียดแทงเข้ากับผิวหนังที่หยาบกร้านขององอาจ เขาต้องล้มถึง 3 ครั้ง ด้วยเหตุที่แข้งขาไม่เป็นใจ เขาหายใจแรงขึ้นจนได้ยินเสียงฟืดฟาด วันนี้ไม่มีกองไฟอุ่นๆเหมือนที่บ้านนอก ยามหน้าหนาวมาเยือน เขาจะต้องทนทุกข์ในยามหน้าหนาวมาเยือนบ่อยซะจนจำไม่ได้ รู้แต่ว่าผ่านมาแต่ละครั้งก็ทุกข์เหลือเกิน วันนี้คงจะต้องทนทุกข์อีกต่อไป เขาลากขาที่เจ็บไปเรื่อยๆ อีกไม่ช้าเขาก็จะถึงที่แล้ว แต่เขาก็เหลือบไปเห็นชายที่อยู่ใต้ผ้าห่ม เหมือนว่าชะตาของพวกเขานั้นจะเหมือนกัน แก้วใบที่วางอยู่อย่างว่างเปล่า มันไม่ได้ถูกขยับเขยื้อนแล้วตั้งแต่เช้าหลังจากที่องอาจเดินผ่านมา องอาจอดใจไม่ได้ที่จะทิ้งเงินสองบาทลงไปในแก้วน้ำพลาสติกนั้น องอาจเดินต่อไปยังที่นอนอย่างยากเย็นโดยมีลมหนาวเป็นอุปสรรค
ในที่สุด..
เขาก็ถึงเจ้าเก้าอี้ประจำของเขาจนได้ องอาจเอนกายลงอย่างไม่รีรอ โดยมีผ้าบางๆที่ขาดเป็นรูขนาดใหญ่ห่มกาย ไม่สิ มันแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ในหัวขององอาจคิดอะไรวุ่นวายเต็มไปหมด แต่ไม่นานนักหัวใจเขาก็เต้นแรงอย่างน่ากลัว ลมหายใจแรงขึ้น องอาจพึมพำอย่างฟังไม่ได้ศัพท์ เขาค่อยๆเลื่อนม่านตาลงปิดอย่างช้าๆ แล้วมันก็ไม่ได้เปิดขึ้นอีกเลย .............
ผลงานอื่นๆ ของ จ-จนี่ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ จ-จนี่
ความคิดเห็น